Growth mindset มีประโยชน์ต่อการเรียนอย่างไรบ้าง เรามาหาคำตอบกัน

ก่อนที่เราจะเข้าใจว่า Growth mindset คืออะไร เราจะขอทำความเข้าใจกับบริบททางสังคมก่อน คนไทยชอบมีความเชื่อที่เชื่อกันว่า มีคนเก่งแล้วก็มีคนไม่เก่ง มีคนฉลาดแล้วก็มีคนไม่ฉลาด ซึ่งในแนวคิดแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ในสังคมญี่ปุ่น จะไม่มีคนเก่ง หรือไม่เก่ง เขาจะใช้คำว่า มีคนที่เรียนรู้ได้เร็ว และเรียนรู้ได้ช้า มันแปลว่าอะไร

อธิบายก็คือทุกคนสามารถที่จะพัฒนาตัวเองได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าคนๆ นั้นจะพัฒนาตัวเองได้เร็ว หรือช้าแค่นั้นเอง ไม่มีคำว่าไม่ฉลาดตลอดไป หรือคำว่าโง่ถาวรในสังคมญี่ปุ่น จึงทำให้ประเทศเขาก้าวหน้า ซึ่งวันนี้เองประเทศไทยก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และ Growth mindset ก็จะเข้ามามีบทบาทสำคัญมาก จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างไปดูกันเลย

Growth mindset คืออะไร

เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการพูดคุย เราอธิบายกันก่อนเลยดีกว่า แล้วถ้าคุณสนใจในเนื้อหาค่อยไปตามต่อกันอีกทีนึง Growth mindset คือแนวคิดเกี่ยวกับความรู้ความสามารถทักษะต่างๆ ที่สามารถพัฒนาตัวเองได้อยู่ตลอดเวลา มันจะแตกต่างกับความคิดเดิมๆ ที่เกี่ยวกับ Fixed mindset ที่มีความเชื่อกันว่า คนเราเกิดมาพร้อมกับความสามารถ ที่มีมาเพียงเท่านี้จะไม่สามารถพัฒนาอะไรเพิ่มได้อีกแล้ว ถ้าไม่มีพรสวรรค์ก็ถือว่าจบเลย มันเป็นแนวคิดของความเชื่อของคนรุ่นเก่า

ตอนนี้อยากให้ทุกคนลองคิดตามดูจริงๆ การเรียนรู้จัดว่าเป็นปาฏิหาริย์นึงสมมุติคนหนึ่งคน ไม่เคยเข้าใจมาก่อนเลยว่า การบวกเลขคืออะไร พอเขาได้เข้าไปในห้องเรียนได้เรียนรู้ว่า หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสองสองบวกสองเท่ากับสี่ เอาแค่ทฤษฎีง่ายๆ ตรงนี้เลย จากตอนแรกที่เขาก่อนจะเข้าเรียน เขาไม่รู้เลยว่าการบวกเลขคืออะไร

แต่พอเข้าเรียนไปแล้ว เขาอาจจะเริ่มเข้าใจเริ่มที่จะรู้บ้างว่าการบวกเลขคืออะไร ไม่มากก็น้อย นี่คือหนึ่งปาฏิหาริย์ที่พูดถึงแล้วจะบอกว่าคนเราไม่สามารถเรียนรู้ได้ หรือพัฒนาตัวเองได้ มันเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องซึ่งมันสอดคล้องกับ Growth mindset นั่นเอง

ทำไม Growth mindset จึงมีบทบาทสำคัญ

ต้องย้อนกลับไปในความคิดแรกเริ่มก่อน ที่คนเรามีความเชื่อเกี่ยวกับ Fixed mindset เนื่องจากคนเรายังมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง ยังมองไม่เห็นการเรียนรู้ของตัวเอง บางคนคิดว่าสิ่งที่เขาเรียนมา ให้เรียนเท่าไหร่ก็เรียนไม่รู้เรื่องสักทีมันไม่ได้แปลว่าเขาไม่รู้เรื่องเลย แต่เขาอาจจะเรียนรู้ได้ช้า อย่างน้อยแน่ๆ เลยคือ เขาก็ต้องรู้ว่าวันนี้เขาจะมาเรียนอะไร แต่ความรู้ที่จะเข้าไปในหัวเขาในสมองของเขาจะมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับขบวนการทำความเข้าใจของเขาว่าจะเรียนรู้ได้เร็ว หรือช้า

ยกตัวอย่างเช่น วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ดวงอาทิตย์ ในวิชานั้นอาจารย์อาจจะอธิบายมากมายว่าดวงอาทิตย์คืออะไร ดวงอาทิตย์ทำหน้าที่อะไรบ้าง มีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน คุณอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่อาจารย์สอนเลยทุกอย่าง แต่สิ่งที่คุณรู้แน่ๆ เลยคือ คุณได้รู้จักดวงอาทิตย์แล้ว นั่นมันก็คือการเรียนรู้ที่ถูกเพิ่มขึ้นมา มันคือ Growth mindset แบบที่คุณไม่รู้ตัวนั่นเอง

ฉะนั้นต่อไปอย่าไปเชื่อใครบอกคุณว่าคุณโง่ คุณไม่ฉลาด สมองคุณมีเท่านี้ก็ทำได้แค่นี้แหละ อย่าไปย่อท้อ จงเชื่อมั่นในการเรียนรู้ของตัวเองซึ่งมันจะนำไปสู่เนื้อหาถัดไปที่เราจะพูดถึง

Growth mindset กับความเชื่อที่เปลี่ยนไป

ในส่วนก่อนหน้านี้เราได้พูดอธิบายไปแล้วว่า คนเราไม่สามารถพัฒนาอะไรได้อีก มันไม่ใช่ความจริง มันเอามาใช้กับชีวิตของคนเราไม่ได้ ในเรื่อง Fixed mindset อาจจะเอาไปใช้กับเรื่องอื่นได้ แต่ไม่ใช่เรื่องการเรียนรู้อย่างแน่นอน สิ่งที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนเชื่อก็คือ Growth mindset เชื่อว่าทุกอย่างพัฒนาได้ ยังไม่ต้องพูดถึงความเชื่อที่เกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองนะ

เรามองไปเพียงแค่ การสะสมเงินทอง คุณเริ่มเก็บเงินวันละ 1 บาท ถ้าคุณเก็บเงินครบ 1000 วันคุณคิดว่าเงินของคุณจะมีเท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้น ตรงนี้คงไม่ต้องอธิบาย ถ้าใครตอบว่าเงินเท่าเดิม ก็คงต้องทำใจแล้วแหละ เพราะความจริงแล้วเงินมันก็ต้องเพิ่มขึ้น ถ้าคุณไม่เอาเงินไปใช้อะไรเสียก่อน หรือคุณพยายามที่จะหลีกเลี่ยงคำตอบที่ถูกต้อง

ทุกคนมี Growth mindset ตั้งแต่แรกเกิดเลย ตอนเกิดมาเรายังพูดไม่ได้เรายังเดินไม่ได้ และสุดท้ายเราพูดได้เราเดินได้ นี่ก็คือ Growth mindset ถ้าเราไม่พยายามที่จะเรียนรู้วิธีการพูด เราไม่พยายามจะเรียนรู้วิธีการเดิน ป่านนี้เราก็ยังคงพูดไม่ได้ และยังเดินไม่ได้อยู่อย่างแน่นอน

ทุกๆ อย่างจะค่อยๆ เปลี่ยนไป ถ้าคุณมีความเชื่อใน Growth mindset คุณเชื่อว่าตัวเองต้องทำได้ คุณเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น ถ้าคุณฝึกฝนอย่างมากพอ คุณทุ่มเทเพื่อมัน สุดท้ายไม่มากก็น้อย คุณก็จะต้องได้รับผลจากสิ่งที่คุณพยายาม Growth mindset มีความสำคัญมากกับทุกๆ สถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในองค์กร การเรียนรู้ในห้องเรียน การฝึกฝนตัวเองให้มีประสิทธิภาพ Growth mindset คือสิ่งสำคัญที่สุด

Growth mindset ไม่จำเป็นที่ชีวิตจะต้องพุ่งขึ้นเสมอไป

อย่าเชื่อว่าตัวเองไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้ และจงเชื่อว่าการพัฒนาไม่ได้เป็นแค่เส้นตรง ทุกครั้งที่คุณล้ม ทุกครั้งที่คุณพ่ายแพ้ ทุกครั้งที่คุณหมดหวัง หรือทุกครั้งที่ชีวิตคุณมีการเปลี่ยนแปลง จำไว้เลยว่านั่นคือการที่ชีวิตคุณได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติม ตามทฤษฎีขององค์กร หรือทฤษฎีการเรียนรู้จะชอบพูดว่า Growth mindset จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ จะทำให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายมากยิ่งขึ้น

ถ้าทุกคนเป็นแบบนั้นหมด ทุกคนคงกลายเป็นดาวเต็มท้องฟ้า แต่อย่าลืมว่าบางคนก็ไม่สามารถขึ้นไปเป็นดาวบนท้องฟ้าสวยงามแบบที่ใครๆ อยากจะเป็นได้ แล้วพวกเค้าจะต้องทำยังไง พวกเขาก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ให้ได้ แม้จะไม่ได้เป็นดาวอยู่บนท้องฟ้า

ก็เปรียบเหมือนกับการเรียนหนังสือ ถ้าสมมุติทุกคนมี Growth mindset ที่จะต้องพัฒนาตัวเองให้เป็นที่หนึ่งอยู่เสมอ แปลว่าเด็กทั้งห้องจะต้องสอบได้ที่หนึ่งกันทุกคน แล้วถ้าไม่ได้ที่หนึ่งขึ้นมาแปลว่า Growth mindset ผิดพลาด หรืออย่างไร ฉะนั้นจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องก่อน Growth mindset ไม่ได้ทำให้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้ทำให้เข้าใกล้ความฝัน แต่มันทำให้คุณได้เรียนรู้ คุณเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งที่คุณมี และสิ่งที่คุณเป็น แต่มันไม่ใช่ Fixed mindset อย่างแน่นอน

เราต้องเข้าใจก่อนว่า สมรรถนะของเราตอนนี้มีความสามารถเท่าไหร่ และเรามีความสามารถในการเรียนรู้มากน้อยแค่ไหน ใช้เวลาในการเรียนรู้นาน หรือไม่ ถ้าเรามีการเรียนรู้ได้ช้า ก็อาจมีคนที่เรียนรู้ได้เร็วกว่าเรา และเข้าถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าเรา ในช่วงที่เรายังต้องพัฒนาตัวเองให้ถึงเป้าหมาย

เราก็ต้องที่จะเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ นั่นแหละคือ Growth mindset ซึ่งสุดท้ายแล้วเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่า เราจะไปถึงเป้าหมายได้ หรือไม่ แต่อย่างน้อยคุณก็พยายามที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรคุณได้เข้าใจคำว่า Growth mindset แล้ว

สรุป Growth mindset กับการเรียนรู้ในห้องเรียน

ถ้าหากวันหนึ่งคุณกลายเป็นเด็กคะแนนน้อยสุด สอบได้ที่สุดท้ายของห้อง คุณอย่ามองว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี หรือเป็นเรื่องโชคร้าย จงมองว่ามันคือโอกาสที่ดี คุณมีเป้าหมายในการแข่งขันกับคนอีกมากมายที่อยู่สูงกว่าคุณ คุณมีโอกาสที่จะไต่เต้า และพยายาม คุณมองพวกเขาเป็นแบบอย่าง แล้ววันนึงที่คุณพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้ ถึงจะไม่ได้ขยับขึ้นมาเป็นที่หนึ่งของห้อง

แต่อย่างน้อยก็ขยับขึ้นมา ก็แปลว่านั่นแหละคุณเข้าใจ Growth mindset แล้ว หรือถ้าผลลัพธ์มันไม่ได้ออกมาดีเสมอไป คุณพยายามแทบตาย แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็คือ คุณยังได้ที่สุดท้ายของห้องอยู่ คุณก็อย่าเพิ่งไปยอมแพ้ หรือบอกตัวเองว่า ฉันมันห่วย ฉันมันทำได้แค่นี้ตามความเชื่อแบบ Fixed mindset

ให้คุณคิดว่าชีวิตของคุณยังมีเรื่องสนุกอีกเยอะ คุณยังต้องปีนป่ายขึ้นไป Growth mindset ยังทำงานอยู่ แล้วมันจะช่วยทำให้ชีวิตของคุณ มีคุณค่าในแบบที่คุณเป็น สนุกกับการใช้ชีวิตซะ